การซ่อมแซ่มและดูแลรักษาประตูไม้จริง

รวมข้อมูลวัสดุศาสตร์ การซ่อมแซมและดูแลรักษาประตูไม้จริง

         ประตูไม้จริงเป็นเป็นสิ่งที่หลายๆ คนต้องการใช้ตกแต่งภายในบ้าน เนื่องจากคุณบัติหลายประการไม่ว่าจะเป็นเรื่องลวดลาย สีสัน ของไม้ธรรมชาติที่มีให้เลือกหลากหลาย ที่สำคัญคืออารมณ์ความรู้สึกที่ได้จากการใช้วัสดุไม้แท้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อขึ้นชื่อว่าไม้แล้วย่อมต้องมีข้อเสียบางประการตามมา โดยเฉพาะเรื่องปลวก หรือการบิด โก่ง งอ ของบานประตู ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องการซ่อมแซมและบำรุงรักษาประตูไม้ให้อยู่คู่เราบ้านของเราให้ยาวนานกันครับ

Size: ขนาด ขนาดมาตรฐานของบานประตูไม้ ที่นิยมนำมาใช้งาน

700 x 2000 mm., 700 x 1800 mm. (สำหรับใช้เป็นบานประตูห้องน้ำ หรือ ห้องซักล้าง)
800 x 2000 mm., 900 x 2000 mm. (สำหรับใช้เป็นบานประตูห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องทั่วไป)
900 x 2000mm., 1000 x 2000 mm. (สำหรับใช้เป็นประตูบานเดี่ยวหน้าบ้าน หรือ บานทั่วไป)

 

Application: ประเภทของประตูสำหรับการนำไปใช้งาน

ประตูไม้จริง สามารถใช้เป็นประตูภายนอกได้เนื่องจากสามารถโดนน้ำ โดนแดดได้บ้าง แต่ไม่ควรใช้ในส่วนที่มีความชื้นตลอดเวลา เช่น ห้องน้ำ เพราะจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาได้ ที่สำคัญควรเลือกเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับประตูไม้ที่มีการอบหรืออาบน้ำยากำจัดปลวกมาก่อน ทั้งบานประตูและวงกบไม้ ซึ่งโดยส่วนมาจะเกิดปัญหาปลวกกัดกินบริเวณวงกบนี่แหละครับ ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีของการผลิตประตูไม้ได้ก้าวหน้าไปมากและมีนวัตกรรมที่ตอบโจทย์เหล่านี้ได้อย่างดี  

 

Maintenance: วีธีการซ่อมแซมหรือบำรุงรักษา

หลายๆท่านคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ทำใหม่ง่ายกว่าแก้” ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้นและใช้ได้กับทุกวงการไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรมความงาม การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่วงการสถาปัตยกรรมก็เช่นกัน ทางที่ดีที่สุดคือการวางแผนให้ถูกต้องตั้งแต่แรก หลังจากนั้นจึงเป็นขั้นตอนของการบำรุงรักษาและซ่อมแซมเพราะไม่มีสิ่งใดในโลกจะคงทนถาวรไปได้ตลอดโดยเฉพาะวัสดุตกแต่งที่ทำมาจากธรรมชาติ เช่น ประตูไม้ ก็ย่อมมีวันผุพังเช่นกัน

ในวันนี้เราจะมาดูปัญหาที่พบบ่อยและ วิธีการซ่อมแซมบำรุงรักษาประตูไม้กันครับ

 

 

 

 

 1. การกำจัดปลวก

ส่วนใหญ่แล้วไม้สักเป็นที่นิยมมากเพราะสักเป็นไม้เนื้ออ่อน มีลวดลายเป็นเส้นสวยงามที่เกิดขึ้นจากวงปี ตามอายุของไม้ มีคุณสมบัติพิเศษ คือ มีน้ำมันตามธรรมชาติที่ปลวกไม่ชอบ แต่ปัจจุบันไม้สักนั้นหายากจึงต้องใช้ไม้ประเภทอื่นแทน และหากประตูไม้จริงที่เราซื้อมานั้นไม่ได้รับการอบน้ำยากันปลวกอย่างถูกวิธี เราจะมีวิธีแก้ไขได้อย่างไรบ้าง

โดยปกติปลวกนั้นจะกัดกินเนื้อไม้จากภายในซึ่งยากต่อการสังเกต เมื่อเราต้องเจอกับปัญหาปลวกกัดกินไม้ นั่นก็มักจะเป็นปัญหาใหญ่ไปเสียแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตามเรายังมีทางออกสำหรับปัญหานี้กันครับ

  • ในขั้นแรกให้โรยผงหรือน้ำยาฆ่าปลวกลงไปบริเวณที่เจอก่อน เมื่อปลวกตัวโดนสารพิษกลับไปที่รังก็จะนำพิษนั้นกลับไปด้วย ส่งผลให้ปลวกตายทั้งรัง อาจดูโหดร้ายนิดๆนะครับหากไม่อยากให้เกิดปัญหานี้ควรเลือกวงกบและประตูที่มีการอบน้ำยากันปลวกอย่างดีตั้งแต่ต้นครับ  
  • หยอดกาวร้อนลงไปตามช่องที่ปลวกกิน จากนั้นอัดสำลีไปตามช่องไม้เพื่อเติมเต็มช่องว่าง แต่ระวังอย่าให้สำลีออกมาเยอะเกินเพราะเมื่อสำลีโดนกาวแล้วจะแข็งมากจนขัดไม่ออก ซึ่งจะกลายเป็นรอยนูนปูดดออกมาได้
  • ใช้สีโป๊วรถยนต์อุดลงไปตามช่อง ข้อควรระวังคือควรเลือกยี่ห้อที่ใช้สำหรับงานเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น มิฉะนั้นจะเหนียวและขัดแห้งไม่ได้ รอให้สีโป๊วแห้งสนิทแล้วจึงค่อยขัดออกให้ผิวเรียบ
  • ผสมสีอุตสาหกรรมกับทินเนอร์ ในอัตราส่วน 1 : 4 ในรอบแรกให้พ่นบางๆก่อน หากพ่นหนาจะทำให้สีโป๊วรถยนต์พองและขึ้นขอบได้ รอให้สีแห้งสนิทแล้วค่อยๆพ่นทับ 2-3 เที่ยว
  • ขัดเม็ดละอองสีออกเบาๆ ด้วยกระดาษทราบเก่าก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ซึ่งวิธีนี้อาจจะใช้ได้กับประตูที่ทาสีทึบไม่ได้โชว์เนื้อไม้นะครับ

 

 

 

 

 2. การแก้ปัญหาประตูไม้จริงบวม

ที่ผ่านการอบมาอย่างดีจะมีอัตราการบวม หรือ โก่ง ค่อนข้างน้อย แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปหากประตูไม้จริงโดนน้ำบ่อยๆ หรือต้องเจอกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาก็อาจเกิดปัญหานี้ได้ ดังนั้นจึงต้องมีการดูแลรักษาเพิ่มเติมแม้ประตูไม้จะอยู่ในที่ร่มก็ตาม

  • หากประตูบวมไม่มาก ให้ใช้กระดาษทรายหรือผ้าทรายเบอร์หยาบๆมาขัดบริเวณที่บวม จะช่วยให้เอาเนื้อไม้ของประตูออกได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น
  • หากประตูขยายตัวจนไม่สามารเปิด-ปิดได้ ให้แก้ด้วยการไสเนื้อไม้บางส่วนออก โดยเริ่มจากใช้ดินสอทำเครื่องหมายของบานประตูโดยเทียบกับวงกบไว้ก่อนว่าต้องไสออกเท่าไหร่ ถอดบานพับออกโดยคลายตะปูเกลียวเฉพาะด้านที่ยึดตัวบานประตูไว้ เมื่อถอดประตูออกมาแล้วให้ถอดกลอนประตูด้านที่ต้องไสไม้ออกเพื่อให้สามารถวางบานประตูบนพื้นหรือบนโต๊ะได้ จากนั้นจึงยึดบานประตูให้แน่นกับแม่แรงอัดไม้ แล้วจึงไสบานประตูด้านที่ต้องการปรับแต่งตามต้องการด้วยเครื่องเจียรลูกหมู ระวังอย่างไสออกเยอะเกินไปเพราะเมื่อประตูหดตัวจะทำให้เกิดช่องห่างมากเกินไป เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ประกอบตัวบานเข้าที่เดิม จากนั้นใช้ไขควงขันตะปูเกลียวยึดบานตัวบนสุดไล่ลงมาเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
  • สาเหตุของการ บวม ยืด หด ของประตูไม้จริงคือการที่โดนแดดโดนฝนบ่อย สามารถป้องกันแสงแดดได้โดยการใช้น้ำมัน หรือ สีย้อมไม้ ทาทับลงไป โดยสีจะซึมเข้าสู่เนื้อด้านในและไม่ทำลายลวดลายไม้ตามธรรมชาติ ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้แสงแดดทำลายจนเนื้อไม้เสียหายและช่วยป้องกันการแตกร้าวก่อนเวลาได้อีกด้วย

 

 

 

3. การแก้ปัญหาบานตก

ปัญหาบานตกนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งมีวิธีการแก้ไขที่แตกต่างกันไปดังนี้ครับ  

  • ข้อสันนิฐานแรกเลยอยากให้ตรวจสอบที่บานพับก่อน หากพบว่าเป็นเพราะบานพับเกิดการเสื่อมสภาพ ขึ้นสนิม โยกคลอน ก็ต้องแก้ไขด้วยการเปลี่ยนบานพับโดยเลือกใช้สินค้าที่มีคุณภาพ ไม่เป็นสนิมง่ายป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำซากครับ
  • ตะปูเกลียวหลวม (ตะปูที่ใช้ยึดบานพับกับประตูและวงกบ) มีสาเหตุอันเนื่องมาจากการติดตั้งบานพับผิดวิธีโดยการตอกตะปูเกลียวแทนการไข เมื่อใช้งานไปไม่นานก็จะทำให้บานตก เปิด-ปิดประตูลำบาก วิธีแก้คือย้ายตำแหน่งบานพับแล้วไขตะปูยึดใหม่ให้ถูกต้อง โดยไม่ห่างจากจุดเดิมมากนักเพื่อการน้ำหนักที่เหมาะสม และอย่าลืมซ่อมรูและโป๊วสีรอยเดิมนะครับ
  • โครงสร้างของบานประตูไม้จริงที่ไม่แข็งแรง ปกติแล้ววิธีการทำบานประตูจะเหมือนกันกับวิธีทำกรอบรูป คือนำไม้ 4 ท่อนมาเชื่อมต่อกันเป็นกรอบสี่เหลี่ยม โดยมีลูกฟักไม้หรือกระจกตรงกลาง ความแข็งแรงของบานจึงขึ้นอยู่กับการเข้าไม้บริเวณมุมกรอบทั้ง 4 ด้าน หากมุมของกรอบประตูหลวมจะทำให้ประตูไม้จริงบิดเบี้ยวไม่คงรูปเป็นสี่เหลี่ยมมุมฉาก กลายเป็นสี่เหลี่ยมเบี้ยวจึงทำให้บานประตูตก วิธีแก้คือถอดประตูออกมาแล้วทำการวัดฉากใหม่ ปรับองศาให้ได้ฉากจากนั้นจึงยึดมุมให้แน่นด้วยตะปูเกลียวแล้วจึงติดกลับไปใหม่
  • ผนังเกิดการแตกร้าวเนื่องจากฐานรากที่ทรุดตัว ทำให้กรอบวงกบมีลักษณะบิดเบี้ยว บานประตูจึงปิดไม่สนิท ก็ต้องแก้ไขที่ระบบฐานราก ซึ่งเป็นต้นเหตุหลัก
 
 

 

 

 4. การแก้ปัญหาประตูเสียงดัง

เกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งจากบานประตูเอง บานพับ หรือแม้แต่ลูกบิดซึ่งวิธีแก้ไขก็มีดังนี้ครับ

  • เสียงดังที่เกิดจากประตูกระแทกกับวงกบ ประตูของบางบ้านอาจมีอาการไหลปิดเอง ซึ่งอาจจะเป็นเพราะระดับพื้นที่เอียง หรือเพราะแรงลม ทำให้เกิดเสียงดังโดยไม่ตั้งใจบ่อย สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้ยางกันกระแทกติดที่บริเวณวงกบ ซึ่งยางกันกระแทกนี้มีความหนาให้เลือกหลายขนาด
  • เสียงดังที่เกิดจากบานพับ ให้ใช้สเปรย์เอนกประสงค์ซึ่งจะช่วยขจัดคราบสกปรกและช่วยหล่อลื่นไปในตัว โดยหยอดตามบานพับเพื่อช่วยลดการเสียดสีของโลหะที่มาของเสียง หากฉีดสเปรย์เลงไปเยอะแล้วแต่ก็ยังมีเสียงดัง ให้ลองยกประตูขึ้นนิดนึงด้วยการยกที่ลูกบิดเพื่อเปิดจุดที่เกิดการเสียดสีของบานพับออกแล้วลองฉัดสเปรย์ลงไปใหม่อีกครั้งครับ
  • หากลูกบิดฝืดเปิด-ปิดยาก ให้ฉีดสารหล่อลื่นลงไปในลูกบิดเพื่อช่วยให้ฝุ่นที่เกาะอยู่หลุดออกไป และกลับมาใช้งานได้ดีอีกครั้งหนึ่ง สารหล่อลื่นบางยี่ห้อสามารถใช้ได้กับทั้งบานพับและลูกบิด
 
 

 

 5. การแก้ปัญหาประตูไม้จริงแตกร้าว

ในกรณีนี้หมายถึงรอยแยกหรือรอยแตกเล็กๆ ที่ไม่ได้อยู่บริเวณขอบประตูซึ่งเป็นจุดที่สามารถเกิดการแตกร้าวต่อเนื่องและเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ แต่หากรอยแตกค่อนข้างกว้างแนะนำให้พ่นสีอุตสากรรมทับแทนการทาสีโชว์เนื้อไม้จะดีกว่าครับ
 

  • ทำความสะอาดผิวของประตูไม้ด้วยน้ำร้อนผสมสบู่โดยใช้ฟองน้ำเช็ดเพื่อลบรอยคราบไขมันสกปรกออกก่อน หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำร้อนเพื่อขยายรอยแตกเล็กน้อยเพื่อความสะดวกในการอุดรอยแตก
  • ลบสีหรือวานิชที่เคลือบอยู่รวมทั้งกำจัดเศษวัสดุอื่นๆออกก่อน และอย่าลืมสวมถุงมือด้วยนะครับ
  • นำดินสอพองมาผสมกับน้ำ ไม่ต้องข้นหรือใสมากเกินไป แล้วนำมาโป๊วอุดรอยตรงบริเวณที่มีรอยแตก จากนั้นให้ทิ้งไว้จนกว่าจะแห้ง
  • ใช้กระดาษทรายเบอร์ 0 (ชนิดละเอียดที่สุด) ค่อยๆขัดเนื้อดินสอพองส่วนเกินออกไป
  • ทำความสะอาดที่ผิวไม้จนหมดพวกฝุ่นผง ทิ้งไว้ให้แห้งสนิท หลังจากนั้นจึงทาสีรักษาเนื้อไม้
 
 

 

6. การซ่อมแซมสีประตูไม้จริง

ประตูไม้จริงควรใช้สีย้อมไม้ทาเพื่อเป็นการเคลือบผิวแต่ก็ยังโชว์ลวดลายของไม้ แต่หากเป็นประตูไม้อัดจก็สามารถใช้สีน้ำมันหรือสีพลาสติกไปทาทับได้

  • การซ่อมแซมสีควรถอดบานประตูออกมาก่อนเพื่อความสะดวกในการทำงาน โดยทำการไขสรูที่ยึดบานพับกับบานประตูออกและควรมีผู้ช่วยถือบานประตูไว้ด้วย 
  • หากประตูมีรอยแตกร้าวให้ทำการซ่อมแซมก่อน โดยสามารถดูวิธีการได้ตามข้อที่แล้ว
  • หากประตูมีราดำ คราบตะไคร่หรือคราบสกปรกอื่นๆ ให้ขัดออกให้หมดก่อนจึงทำการทาสีซ่อมแซม
  • สำหรับบานประตูไม้จริงที่ต้องการโชว์ลายไม้ ให้ใช้กระดาษทรายขัดตัวเคลือบไม้เดิมออก ถ้าเป็นประตูไม้เนื้ออ่อน ควรใช้กระดาษทรายประมาณเบอร์ 2-3 เพราะตัวเคลือบจะไม่ค่อยหนา และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยที่ผิวไม้ หากใช้เครื่องขัดกระดาษทรายจะทำให้สามารถทุ่นแรงและเวลาได้มากขึ้น
  • ก่อนที่จะเริ่มทาน้ำยารักษาเนื้อไม้หรือสีทาทับหน้า ควรทำการป้องกันอุปกรณ์ประตูจากสีก่อนด้วยการนำเทปกาวมาติดที่ลูกบิด มือจับ หรือกลอนเสียก่อน จากนั้นจึงทาน้ำยารักษาเนื้อไม้ให้ทั่วทุกด้าน จำนวน 2 เที่ยว ทิ้งไว้จนแห้งสนิท ในขั้นตอนนี้ควรทาน้ำยาป้องกันเชื้อราลงไปด้วย
  • จากนั้นก็ทาทับด้วยสีย้อมไม้ 2 เที่ยว ทิ้งไว้ให้แห้ง ดึงเทปกาวออก แล้วติดตั้งประตูเข้ากับวงกบไปดังเดิม

 

 

 

7. การทำความสะอาดประตูไม้จริง

  • ให้เริ่มจากการปัดฝุ่นที่อยู่ทั้ง 2 ด้านให้สะอาด หลังจากนั้นก็ให้ใช้ผ้าชุบน้ำยาสำหรับทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ไม้ขัดให้ทั่วประตู ซึ่งน้ำยานี้จะช่วยให้ประตูไม้มีความเงางามเหมือนใหม่ อีกทั้งยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ประตูเกิดเชื้อราได้อีกด้วย
  • หากเกิดรอยคราบเป็นวงที่ประตูไม้ ให้ใช้ผ้าหรือสำลีชุบน้ำมันการบูรถูเบาๆบริเวณที่เป็นรอย รวมถึงหากเกิดรอยขีดข่วนที่ประตูไม้ ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำมันชักเงาถูเบาๆจนรอยขีดข่วนหายไป
  • คราบเปื้อนจากสี ถ้าสียังไม่แห้งแก้ไขเหมือนรอยขีดข่วน แต่ถ้าแห้งแล้วให้ใช้น้ำมันสนชโลมบริเวณคราบนั้นจนกว่าคราบสีจะอ่อนตัวและหลุดไป จากนั้นใช้น้ำมันชักเงาถูให้สะอาด
 
 

 

8. การทำความสะอาดอุปกรณ์ประตู

  • ลูกบิดประตูที่ทำมาจาก Stainless steel  อาจเกิดสนิมได้จากเกลือทะเลหรือคลอรีนจากน้ำประปา แม้จะใช้เกรด 316 ก็ตาม รวมไปถึงที่อับชื้นและไม่มีอากาศถ่ายเท ควรทำความสะอาดทุก ๆ 3-6 เดือน โดยใช้ผ้าหรือฟองน้ำ
  • ลูกบิดประตูที่ทำมาจาก Zinc Alloy จะเกิดจุดดำบนผิววัสดุ หากมีการใช้ภายนอกอาคารที่อยู่ใกล้ ๆทะเล ควรทำความสะอาดทุก 2-3 สัปดาห์ โดยใช้ฟองน้ำหรือผ้าชุบน้ำยาล้างจานเช็ดแล้วล้างออกด้วยน้ำประปา หลังจากนั้นเช็ดด้วยผ้าแห้งให้สะอาด
  • ลูกบิดประตูที่ทำมาจาก Brass (ทองเหลือง) สารเคลือบผิวทองเหลืองอาจชำรุดได้จากการสัมผัสกับวัตดุแหลมคม หรือโดนไอระเหยของสารเคมีที่เป็นกรด ควรทำความสะอาดทุก 2-3 สัปดาห์ โดยใช้ผ้าแห้งหรือผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ด ถ้ายังมีคราบอยู่ให้ชุบด้วยน้ำยาล้างจานแล้วล้างออกด้วยน้ำประปาแล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้า

การเลือกใช้ประตูไม้จริงนั้นช่วยให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นใกล้ชิดธรรมชาติ ทั้งการมองเห็นและการสัมผัส มีงานวิจัยหลายชิ้นที่บ่งชี้ถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้ไม้จริงมาเป็นวัสดุตกแต่ง การเลือกใช้ประตูไม้จริงให้ถูกประเภทและตรงตามฟังก์ชั่น รวมทั้งการเลือกวัสดุที่มีคุณภาพตั้งแต่แรกก็จะช่วยลดปัญหาที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนี้ได้เป็นอย่างมาก